สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้จ๋าได้แป้งตัวนึงมารีวิว เลยถือโอกาสทำ blog เกี่ยวกับการแต่งหน้าไปบิน turnaround ของจ๋าไปด้วยเลย
สำหรับใครที่ยังไม่รู้ การไปบิน turnaround ก็คือการทำไฟลท์ไปและกลับมาที่เดิมภายในวันเดียวกันโดยไม่ได้ไปค้างที่ต่างประเทศ ซึ่งแอร์ฯน้อยคนที่จะชอบบิน turnaround เพราะเงินที่ได้ส่วนใหญ่มักจะน้อยกว่าเวลาทำไฟลท์ยาวๆแล้วไปค้างตามเมืองต่างๆ แถมหลายครั้งยังเหนื่อยกว่าเพราะต้องทำงานทั้งไปและกลับรวดเดียว
นอกจากนี้ยังต้องตื่นเช้ามากๆ หรือไม่ก็ทำงานข้ามคืน แอร์หลายคนรวมถึงจ๋าก็เลยขี้เกียจเผื่อเวลาล่วงหน้าเพื่อแต่งหน้าเยอะๆ เพราะจะได้เก็บเวลาเอาไว้นอนเก็บแรง เพื่อนแอร์บางคนถึงกับพูดว่า แต่งหน้าเยอะ เปลืองค่าเครื่องสำอาง ไม่คุ้มค่าเงินที่ได้(จริงๆก็ไม่ขนาดนั้น ฮ่าๆ)
เอาเป็นว่าวันนี้จ๋าจะมาบอกเทคนิคการแต่งหน้าไปบิน turnaround ในแบบของจ๋า ว่าทำยังไงให้ประหยัดเวลา แต่ก็ยังดูเป๊ะ ดู professional
มาพูดถึงแป้งตัวที่จ๋ากำลังจะรีวิวกัน แป้งตัวนี้ก็คือ Nagano Powder Cake เป็นแป้งพัฟคุมมันมีด้วยกันทั้งหมด 2 สี คือ
– Ivory no.01
– Aurora no.02
ที่จ๋าสนใจจะรีวิวแป้งตัวนี้ก็เพราะชื่อนากาโนะ ที่มีความญี่ปุ่น(ความชอบส่วนตัว) บวกกับที่เค้าว่ากันว่ามันเป็นแป้งปกปิดซึ่งตอบโจทย์กับ concept แต่งหน้าไปบิน turnaround ของจ๋ามากๆ เนื่องจากวันนี้เราจะไม่ลงรองพื้นกัน
ก่อนจะไปแต่งหน้า เรามาดูข้อมูลของแป้งตัวนี้กันก่อนค่ะ
Nagano Powder Cake (นากาโนะ เพาเดอร์ เค้ก)
นากาโนะ เพาเดอร์ เค้ก แป้งเค้กสูตรพิเศษจากนากาโน ที่มีส่วนผสมจาก Gigawhite สารสกัดคุณภาพสูงจากพืชธรรมชาติ 7 ชนิดบนเทือกเขาแอลป์ เกิดเป็นเนื้อแป้งที่ช่วยปกปิด ควบคุมความมัน และป้องกันรังสี UV ผสมผสานกับคอลลาเจนที่เป็นสารประกอบหลักในการเสริม
ความแข็งแรงของชั้นผิว ช่วยฟื้นฟู รักษาผิวหน้าให้แข็งแรงจากภายใน สู่ผิวที่เรียบเนียนภายนอกอย่างเป็นธรรมชาติ
วิธีใช้ก็เหมือนแป้งพัฟทั่วไปเลยค่ะ ใช้ฟองน้ำสัมผัสเนื้อแป้งอย่างบางเบา ค่อยๆ เกลี่ยเนื้อแป้งให้ทั่วหน้า สามารเกลี่ยทับเพิ่มเติมได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปกปิด
จ๋าเลือกเบอร์ 02 สี AURORA มาค่ะ เนื่องจากเป็นโทนที่เข้มกว่า
ความประทับใจแรก: ตัวพัฟไม่หนามากแต่สัมผัสนุ่ม ตลับแป้งมีขนาดกระทัดรัด เหมาะกับพกพา ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ดูมีความเป็นญี่ปุ่น(ความชอบส่วนตัว)
ถ้าพร้อมแล้ว มาเริ่มแต่งหน้าไปบิน turnaround กันเลยค่ะ
วันนี้จ๋าอยู่ที่กรุงเทพฯ กำลังจะบินไปฮ่องกง แล้วบินกลับมานอนที่กรุงเทพฯต่ออีกคืนค่ะ โดนเพื่อนๆขู่ไว้ว่า มันจะเป็น long day มากๆ
อย่างที่บอกว่าจ๋าต้องการแต่งหน้าแบบประหยัดเวลา ฉะนั้นวันนี้เราจะข้ามขั้นตอนเบสและรองพื้น แล้วไปลงแป้งกันเลยค่ะ
วันนี้จ๋ารีวิวแป้งไปด้วย ก็เลยขอเปรียบเทียบให้ดูครึ่งหน้า ระหว่างฝั่งที่ยังไม่ได้ทาแป้งนากาโนะกับฝั่งที่ทาแล้วค่ะ
ความประทับใจแรกหลังจากลองใช้: ตัวแป้งมีความหนา ปกปิดเนียนมากๆ ปิดรอยสิว รอยกระ และรอยคล้ำใต้ตาได้มิด ไม่แห้งเป็นขุย ให้ความเป็นผิว ไม่ต้องเบส ไม่ต้องรองพื้น ตัวเดียวเอาอยู่ โทนสีออกเหลืองเหมาะกับผิวคนเอเชีย ไม่ดูหลอก
จากนั้นก็เขียนคิ้วค่ะ ปกติจ๋าใช้ที่เขียนคิ้วแบบเจล แต่ไปบิน turnaround แบบนี้ จ๋าไม่มีเวลามาปราณีตค่ะ เลยเลือกใช้แบบดินสอแทน เพราะเขียนง่ายและเร็วกว่าแบบเจล แต่อยู่ได้นานกว่าแบบฝุ่นค่ะ
จากนั้นจ๋าก็จะแรเงาทุกจุดบนใบหน้าที่ทำให้มิติหน้าดีขึ้นค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการคอนทัวร์กรอบหน้า ปิดเหม่ง ไฮไลท์สันจมูก หรือแม้กระทั่งการคัดเบ้าตาค่ะ ขั้นตอนนี้จ๋าชอบมากเพราะไม่ต้องปราณีต แถมยังได้หน้าที่มีมิติมากขึ้นอีกด้วยค่ะ
จากนั้นจ๋าก็เขียนขอบตาด้านในโดยใช้ดินสอสีดำเพื่อทำให้ตาดูคมขึ้นค่ะ เป็นอีกวิธีที่เพิ่มความคมให้ดวงตาโดยไม่ต้องใช้ความพิถีพิถันมาก แค่ระบายๆไปตามขอบตาให้มันคมเข้ม
จากนั้นก็ดัดและปัดขนตา
ทาลิปสีแดง ซึ่งเป็น standard ของสายการบินที่จ๋าทำงาน วันนี้จ๋าเลือกใช้ลิปสติกแบบแท่งค่ะ เพราะทาง่ายและไม่ต้องบรรจงมากเหมือนลิปแบบจิ้มจุ่ม และถ้าทาเกินขอบปากก็สามารถเช็ดออกได้อย่างง่ายดาย ไม่ใช้เวลาเยอะค่ะ
ทรงผมก็เลือกทำทรงที่ง่าย ถูกระเบียบ และเคยชินที่สุด เพื่อประหยัดเวลาในการทำค่ะ
แถ่น แทน แท๊นนน… และนี้คือ Finish Look แอบไปเติมแก้มมา(เมื่อกี๊ลืม ฮ่าๆ) จ๋าพร้อมไปบิน turnaroundแล้วค่า
และภาพข้างล่างนี้ถ่ายที่สนามบินที่ฮ่องกงหลังจากผ่านไป 8 ชั่วโมง โดยไม่มีการเติมแป้งเพิ่มค่ะ ขออนุญาตเอาการ์ตูนปิดยูนิฟอร์มกับผมหน่อย เนื่องจากสภาพผมยุ่งเหยิงมากค่ะ เดี๋ยวจะดูไม่ดีเวลาอยู่ในยูนิฟอร์ม อิอิ
ถือว่าแป้งตัวนี้ปกปิดใช้ได้เลยสำหรับ 8 ชั่วโมง กับการทำงานที่หน้าต้องอังอยู่กับอาหารร้อนๆ เรื่องคุมมันนี่ไม่แน่ใจ เพราะบนเครื่องบินอากาศค่อนข้างแห้งอยู่แล้ว เอาเป็นว่าผ่านไป 8 ชั่วโมงหน้ายังไม่เยิ้ม
เค้าว่ากันว่าแป้งตัวนี้กัน UV ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่จ๋าชอบมาก เพราะเวลาอยู่บนเครื่องบิน เหมือนจะไม่ได้ออกแดด แต่จริงๆเราอยู่ใกล้แสงแดดมากกว่าปกติหลายเท่าตัวเลย ในรูปอาจจะดูเหมือนหน้าหมองลง จริงๆเป็นเพราะ qualityของรูปและแสง ณ ตอนนั้น แต่ตัวจริงหน้าไม่หมองลงเลยค่ะ มีแต่ตาที่ดูง่วงขึ้นเท่านั้นเอง ฮ่าๆ
และภาพด้านล่างที่เห็นเป็นสภาพหลังจากแต่งหน้ามาแล้วถึง 15 ชั่วโมง! โดยไม่มีการเติมแป้งเพิ่มหรือแต่งรูปใดๆ(เติมแค่สีปากเพื่อการทำงาน) หน้าไม่มันเยิ้มแถมยังเนียนใช้ได้ ถือว่าแป้งตัวนี้ปกปิดดีเกิดคาด
บอกเลยว่าสำหรับแป้งตัวนี้จ๋าให้คะแนน 10/10 แป้งตัวเดิมจ๋ากำลังหมดพอดี แป้งตัวนี้กลายเป็นแป้งตัวโปรดที่จ๋าพกติดกระเป๋าไปบินโดยปริยาย…
ใครสนใจ ตามไปซื้อหรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Nagano shop เลยจ้า